Who Magazine : Column Flash back

“อย่าทำตัวเป็นผ้าขี้ริ้ว” คำคมจากนางเอกฉายา “ขาอ่อนเงินล้าน” กมลชนก ปานใจ

ยุคทองของอดีตนางแบบสาวสวยที่เคยเป็นนักแสดง หลายคนจดจำเธอได้ในฉายานางแบบน่องทองเพราะเรียวขาเพรียวสวย แนะเคล็ดลับใช้ชีวิตในวงการบันเทิงให้อยู่ได้แบบยาวนาน อย่าทำตัวเป็นผ้าขี้ริ้วที่ไม่มีคุณค่า

อดีตนางแบบ คุณปู-กมลชนก ปานใจ รองสาวแพรวที่โด่งดังจากจากภาพยนตร์เรื่อง พรุ่งนี้ฉันจะรักคุณ อยู่วางการมาพักใหญ่ ก็แต่งงานก็หันหลังให้กับวงการบันเทิง ตั้งแต่เบญจเพศเพื่อไปทำงานในแวดวงธุรกิจอยู่พักหนึ่ง จนได้รับรางวัลนักธุรกิจสตรีแห่งปีมาครอง เมื่อปี 2539

ปัจจุบันเธอเป็นนักเขียนอิสระ และมีเพจในเฟสบุ๊คชื่อ ‘Kamonchanok Parnjai กมลชนก ปานใจ’ที่ส่งความสุขและความคิดดีๆให้กับสังคม ที่ปรึกษาสุขภาพ

เธอยังเป็นไลฟ์สไตล์ลิสต์(Lifestyle) ที่ช่วยให้ความเห็นและคำแนะนำกับคนที่ท้อถอย สับสน เพราะวิถีชีวิตที่ไม่มีรูปแบบแน่นอนของแต่ละคน ช่วยให้คนจัดการกับชีวิตของตัวเองให้ลงตัว  จนตามองค์กรต่างๆก็จะเชิญไปบรรยาย หลากหลายหัวข้อ หลักๆก็ไลฟ์สไตล์ลิสต์ที่ทำเกี่ยวกับความคิด คิดต่าง ทำอย่างไรให้รักงาน หรือแม้แต่เรื่องดูแลสุขภาพ เพราะเธอสนใจศึกษาเรื่อง อาหาร การกิน การดูแลสุภาพ อย่างเข้มข้น จนต้องไปศึกษาต่อปริญญาโท ที่คณะเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ (Anti-Aging) มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง อายุเท่าไหร่ “อายุ 20 กว่าๆ ค่ะ” เธอหัวเราะก่อนเฉลยว่า “จะบอกกับตัวเองแบบนั้นเสมอ ฉะนั้นเลยทำให้เราอยากเรียนรู้ อยากเรียนหนังสือ และเดินไปในที่แปลกๆ ไปค้นคว้าเมืองแปลกๆในต่างแดน ทำยังไงก็ได้ให้เรานึกว่าเราอายุ 20 เสมอ ซึ่งอายุจะเท่าไหร่ก็ช่าง” นี่เป็นเคล็ดลับชีวิตที่ทำให้อดีตนางเอกสาวดูเป็นสาวสะพรั่งและอ่อนกว่าวัย จากนางเอก นางแบบ …สู่ทำเนียบนักเขียน

นอกจากเป็นนักแสดงสาวสวยที่ผันตัวเองมาเป็นนักเขียนฝีปากกล้าที่กล้า โดยมีผลงานออกมาแล้วหลายเล่ม อาทิ อกไม่หัก ถ้ารักให้เป็น,ฟิตแอนด์เฟิร์ม ใน 21 วัน,เมื่อผู้หญิงต้องร้าย เพื่อทิ้งผู้ชายเลว,ปั่นหัวผู้ชาย,เลวอย่างนี้ก็ดีอยู่แล้ว และเซ็กส์ เมาท์ หนุ่ม จึงเป็นที่มาของเสียงวิจารณ์ว่า นักเขียนขายดีฝีปากกล้า “กูรู” ความสัมพันธ์  เพราะแฉเรื่องแสบๆ ของผู้ชายตามสไตล์ถนัดของเธอ ต่อมาเธอเขียนคอลัมภ์สุขภาพ กับคุณหมอ จนกลายเป็นกูรูสุขภาพ แล้วเธอยังชอบท่องเที่ยว และถ่ายภาพสวยจนกลายเป็นช่างภาพคอลัมภ์ท่องเที่ยว ที่มีคนคอยตามดูภาพสวย พอไปเรียน Anti-Aging จะรู้ว่าเซลล์จะเปลี่ยนได้ตลอด แล้วอยากให้มันเยาว์วัยจะต้องทำอะไรยังไงได้บ้าง

ใครสนใจสวยอยากเยาว์วัยได้ด้วยวิธีดูแลเซลล์ ติดต่อเข้าเฟสบุ๊คได้เลยคะ “งานหลักก็เป็นนักเขียนกับไปบรรยายตามองค์กรต่างๆคะ ใครสนใจติดต่อมาได้คะ แนะนำว่าเขาควรกินอยู่อย่างไง คิดยังไง และมีความสุขกับงานที่ทำแบบไหน หรือว่าต้องวางแผนชีวิตยังไง” ด้วยความเป็นคนช่างวางแผน ทำให้เธอมีรูปแบบดำเนินชีวตที่ไม่เหมือนนักแสดงทั่วไป ฉายา “สาวน่องทอง”

อดีตนางเอกสาว เป็นคนกรุงเทพฯ คุณพ่อเป็นข้าราชการ คุณแม่ทำงานในโรงเรียน  มีพี่น้อง 3 คน เธอเป็นคนโต น้องคนแรกทำงานเกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์ และน้องคนสุดท้องเป็นอัยการ  เริ่มเรียนที่โรงเรียนราชินีบน ระดับมัธยม โรงเรียนสตรีวิทย์ และมาต่อปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยหอการค้า ด้วยหน้าที่การงานทำให้ต้องย้ายไปเรียนและจบที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง และกำลังศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

“ความฝันในวัยเด็กอยากเป็นแอร์โฮสเตส แต่คุณแม่บอกว่าอย่าเป็นเลย เพราะกลัวว่าเราจะเอาถาดไปตีหัวผู้โดยสาร (หัวเราะ) ตรงนั้นคือความฝัน แต่เพิ่งมารู้ตัวเองอยากเป็นนักเขียนตอนอ่านในไดอารี่ว่า สมัยเด็กๆจำได้ว่าท๊อปวิชาภาษาไทยตลอด เพราะชอบเขียนกลอนให้อาจารย์อ่านเป็นประจำ แล้วเพื่อนจะบอกว่าเราเป็นคนช่างบรรยาย แต่เราไม่รู้ตัว “เริ่มเข้าวงการบันเทิงตั้งแต่ใส่กางเกงขาสั้นแล้วไปเดินที่สวนจตุจักร หลายคนจะชมว่าขาสวย ก็มีให้ไปเทสหน้ากล้องจนได้งานโฆษณาที่ให้ถ่ายเฉพาะขา  พอได้ งานขาก็จะมีคนถามว่าใครมีมือสวยบ้างเขามาจับมือทุกคน ในที่สุดเรามีมือสวยอีก สรุปว่าพวกที่เป็นบอดี้อะไรแบบนี้จะเป็นเรา ประมาณครึ่งปีเกือบปี เพื่อนชวนให้ไปเป็นเพื่อนเพราะเขาจะสมัครประกวดสาวแพรว ตอนที่ไปมีพี่สไตล์ลิสต์เดินมา เธอสมัครไปด้วยเลยนะ เราก็สมัครด้วย สรุปว่าเราได้ตำแหน่งรองสาวแพรว ซึ่งไม่เคยคิดว่าเราจะได้เพราะคิดเสมอว่า เราไม่สวย แต่พอได้เราก็นึกเออ เขาชอบของแปลกนิ (หัวเราะ)”



เมื่อตำแหน่งรองสาวแพรวทำให้เธอได้มีโอกาสประกวดจนได้ตำแหน่ง รองนางสาวถิ่นไทยงาม จ.เชียงราย แจ้งเกิดจากภาพยนตร์ “พรุ่งนี้ฉันจะรักคุณ” “ตอนนั้นอาจารย์ดื้อ อาจารย์อำพล สุวรรณจิตร ของไอซีซี ตอนนี้ท่านเสียชีวิตไปแล้ว พอดีท่านสนิทกับอารุจน์(รุจน์ รณภพ) ได้ถามว่าอาจารย์ดื้อที่มีนางแบบเยอะว่ามีใครพอจะเป็นนางเอกไหม อาจารย์ดื้อบอกให้มาดูตัวเราเลย อารุจน์พากันมาทั้งครอบครัว  พอมาดูกันแล้วอารุจน์บอกว่าใช่ สาเหตุที่ได้เล่นเรื่อง พรุ่งนี้ฉันจะรักคุณ เพราะมีบางอย่างเหมือนคุณสุวรรณี สุคนธา ซึ่งเป็นคนเขียนเรื่องนี้ พอรู้ว่าจะได้เล่นเป็นนางเอกก็รู้สึกในใจว่า แปลก(หัวเราะ) พอเป็นนางเอกแล้วยังจะติดรถที่เขาไปซื้อกับข้าว แต่ก็จะมีคนมาบอกว่า เป็นนางเอกจะต้องนั่งให้เรียบร้อย  แต่ยากมากคะ ที่จะให้นั่งเฉยๆ “สมัยก่อนนางเอกต้องเป็นคนเรียบร้อย ห้ามมีแฟน พอเห็นว่ามันอยู่ในกรอบเราไม่ชอบ เพราะเราชอบมีความเป็นส่วนตัวจะทำอะไรก็ได้ ตอนนั้นรู้สึกอึดอัด เลยกลายเป็นเด็กดื้อของอารุจน์ ซึ่งอารุจน์บอกว่าเราดื้อมาก(ทำเสียงเข้ม) ทำให้เรารู้สึกว่าอะไรที่ต้องอยู่ในกรอบ ต้องคิดในกรอบ มันทำยากและอึดอัด

แต่จำได้ว่าตลอดเวลาเกือบปี มีรูปเราลงในหนังสือพิมพ์ทุกวัน ไปไหนมีคนรู้จัก มีคนต้อนรับ นั่นคือข้อดีที่เราได้เป็นคนในวงการ เช่น ขับรถยนต์ชนเค้าเราก็ตกใจลงไปกอดเขา เพราะเราเป็นคนผิด แต่พอเขาเห็นเราเขากลับดีใจว่าเป็นแฟนหนังเรา” เธอเล่าย้อนถึงสิ่งดีๆที่คนในวงการบันเทิงให้มาด้วยน้ำเสียงมีความสุข ฝันอยากเป็นผู้กำกับ สำหรับนางเอกในยุคเดียวกับคุณปู ประกอบด้วย สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์,จันจิรา จูแจ้ง,นาตาชา เปลี่ยนวิถีและอดีตนางแบบรุ่นพี่ คาร่า พลสิทธิ์  “พอเล่นหนังแล้วก็เล่นละคร มีอยู่เรื่องหนึ่งเราโดนตบมา 5 ปี จะไม่ลุกขึ้นสู้จริงๆเหรอ แล้วจำได้ว่าพี่ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์  ถ้ายังไงรอเอาไว้กำกับหนังของตัวเองละกัน  จำได้ว่าเราคงไม่สามารถอยู่ภายใต้การกำกับของใครได้ แต่ตอนนี้อยากเป็นผู้กำกับอยากทำหนังของตัวเอง เพราะเป็นคนที่มีเรื่องราวในหัวเยอะ คิดว่าถ้าเรียนจบปริญญาโท แล้วอาจจะต้องไปเรียนต่อด้านนี้ เนื่องจากตอนนี้เราเพิ่งอายุ 20 จะทำอะไรก็ได้(หัวเราะ)”

ถามว่าชีวิตที่ก้าวเข้าสู่บทบาทนางเอกใช้หลักอะไรทำให้ตัวเองไม่หลงกับชื่อ เสียงเงินทอง คุณปู กล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “อาจจะเป็นเพราะพ่อแม่พี่สอนมาดี เป็นการสอนแบบผู้ใหญ่สมัยก่อนสอน ให้สมถะ และให้คิดว่าเรื่องสำคัญที่สุดคือความรู้ และไม่ให้ทำตัวเด่นดัง พ่อบอกมันดับง่าย ช่วงแรกที่เล่นหนังเราเล่นไม่เก่ง เพราะไม่อิน แต่ช่วงหลังมาเล่นละครเราอินมาก ขนาดบางเรื่องที่เล่นคนที่เป็นพ่อกับแม่ในหนังเขาเป็นตัวประกอบ เราก็ไปนั่งกินข้าวกับเขา เพราะเราอินมากนึกว่าเขาเป็นพ่อกับแม่เราจริงๆ แต่ก็แอบโดนผู้ใหญ่ต่อว่ามา ว่าถ้าเป็นนางเอกต้องมานั่งโต๊ะในห้องของนางเอก ตัวประกอบน่าสงสารนะคะ นั่งรอนานมากๆ มีครั้งนึงเป็นพิธีกร วันแรกที่เข้าทำงานผู้จัดถามว่าจะเอาอะไรพิเศษไหม เราก็ว่าไม่เราทำได้หมด เขาบอกคนอื่นจะมีการขอแปลกๆ ขอพัดลม สามตัว ขอทุกอย่างเป็นสีชมพู ขอห้องส่วนตัว พร้อมนั่นโน่นนี่สารพัด แต่เราไม่ขอ เราว่าทุกคนที่มาทำงานเขาลำบากอยู่แล้ว ทำไมต้องทำให้เขาลำบากมากกว่า พอเราโตเพิ่งมาคิดได้ว่า เราน่าจะขอ เราน่าจะเยอะ เราจะดังกว่านี้(หัวเราะ)

พี่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคนถึงชอบเอาใจคนร้าย คนเยอะขนาดนั้นให้ร้ายๆถึงจะมีงาน แต่คนดีๆกลับไม่มีงาน ถ้าพี่เป็นคนในวงการ พี่จะแบนคนร้าย คนเยอะ ” อย่าเป็นผ้าขี้ริ้ว?… หลายคนอยู่ในวงการแบบฉาบฉวย แต่ทำอย่างไรถึงให้อยู่ในวงการบันเทิงนี้ได้อย่างยาวนาน “ถ้าทุกคนมีความเคารพซึ่งกันและกันวงการบันเทิงจะไปได้ไกลกว่านี้แน่นอน และไม่ต้องทำตัวเป็นผ้าขี้ริ้ว จงมีจุดยืนเป็นของตัวเอง ไม่ถึงขนาดเยอะ แต่ต้องรู้ว่าอะไรควรรับ ไม่ควรรับ ควรเลือกงาน ตรงเวลา รับผิดชอบ ตั้งใจเรียนรู้งานทำแบบมืออาชีพ  เพราะบางคนมาถึงกองถ่าย แล้วไม่ท่องอะไรเลย ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงมืออาชีพขนาดนั้น ทำได้ ขนาดอายุมากแล้วความจำยังเป็นเลิศ ข้อดีของวงการบันเทิงเหมือนครอบครัวใหญ่ พอเห็นเป็นคนในวงการเดียวกัน เขาจะช่วยเหลือกันหมด พี่ว่าวงการบันเทิงดีกว่าอีกหลายวงการ
“วันนี้ถามว่าอยากกลับไปในวงการบันเทิงไหม ก็อยากกลับแต่ขอไปแตะ ไม่ต้องเป็นเรื่องเป็นราว เพราะกลิ่นอายความดี ความสุข ยังจำได้ เพียงแต่เราเป็นคนที่ไม่ชอบอยู่ในคอนโทรล หรือต้องนั่งรอนานๆ ขนาดรอลิฟท์นานๆยังรู้สึกเวลา ต้องเดินลงบันได เหตุนี้ทำให้ช่วงนั้นไม่อยากทำงานในวงการบันเทิง เพราะทุกคนไม่รู้หน้าที่ นัดเที่ยงมาบ่าย นัดบ่ายมาเย็น สมัยนั้นช่วยงานสามี แล้วต้องไปแสดงเลยบอกกับสามีว่าไปถ่ายบ่ายๆก็คงเสร็จ ปรากฎว่าเช้าอีกวันหนึงยังไม่เสร็จ มันเสียเวลาและวางแผนอะไรกับชีวิตไม่ได้”


ฝากอะไรไหม ฝากพ๊อคเกตบุ๊คสองเล่มที่กำลังจะทยอยออกช่วงกลางปีนี้ เล่มแรกชื่อ ‘จงเห็นแก่ตัว’ หนังสือที่คุณจะเปลี่ยนมุมมองให้ชีวิตคุณทีเดียว คุณจะเป็นสุขมากขึ้น สุดท้ายฝากเฟสบุ๊คเพจ ‘Kamonchanok Parnjai กมลชนก ปานใจ’ สำหรับคนที่อยากได้แรงบันดาลใจและรู้เรื่องสุขภาพ นี่คือบทสรุปชีวิตของอดีตนางเอกชื่อดัง “กมลชนก ปานใจ” ที่ทำอาชีพได้หลากหลายเพราะเชื่อเสมอว่า “ทุกอย่างในโลกนี้ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้”

Share this Post

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.