นานมาแล้วเราถูกสอนว่าไม่ควรหนีปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นไม่ว่าปัญหานั้นจะหนักหนาสาหัสสากรรจ์แค่ไหนก็ตาม เนื่องจากในชีวิตจริงเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะหนีปัญหานั้น เพียงเพราะว่าเราไม่ชอบมัน แต่ลองพิจารณาถึงปัญหาอย่างจริงจัง แอบมีคำถามว่าทำไมต้องทน ชีวิตนี้เลือกได้เสมอ เลือกหลบหลีก เลือกเลี่ยง เลือกหนีสิ่งหรือคนที่กวนใจ เพราะอะไรรู้ไหมคะ เพราะการทน ทำให้เราเครียดและความเครียดคือบ่อเกิดแห่งโรคร้ายหลากหลายโรค ทนแล้วไม่คุ้มนะคะ
ผู้คนบางคนที่ฉุดรั้งคุณ งานจะทำให้คุณเป็นบ้า และความเสียใจจะคอยทำร้ายคุณ อย่าเก็บมันไว้ทำไมล่ะ … ทิ้ง ไม่ใช่ทน แล้วชีวิตของคุณจะเบาขึ้น สุขขึ้น มาดูกันว่า สิ่งที่เราควรทิ้ง ไม่ใช่ทน แล้วชีวิตของคุณจะเบาขึ้น สุขขึ้น
1. ความสัมพันธ์ที่ไม่แน่นอน หรือความสัมพันธ์ที่ไม่ใช่ความสัมพันธ์
ความสัมพันธ์ที่เหมือนไม่ใช่ความสัมพันธ์ มีแค่เซ็กส์ห่วยๆกับบทสนทนาขยะ เลิกๆไปซะ หรือความสัมพันธ์แบบเจอกันสามเดือนครั้ง สองปีหอมแก้มกันที คุยกันแบบ ถามไถ่ดินฟ้าอากาศ กินข้าวหรือยัง อากาศร้อนไหม ตื้นไปคะนั่นไม่ใช่ความสัมพันธ์คะ ความสัมพันธ์ที่ดีมันต้องลึกซึ้ง มีการสื่อสารและเข้าใจกัน
2. งานที่คุณไม่ชอบ
การลาออกไม่เหมือนกับการถูกไล่ออก การลาออกไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่การไม่พยายามหางานที่เหมาะกับคุณต่างหากที่น่าอายกว่า ถ้าคุณไม่ชอบก็ลาออกเลย หากคุณขี้เกียจทำงาน งั้นก็หางานที่สร้างรายได้โดยที่คุณไม่ต้องลุกจากเตียงสิ แต่ยังไงก็ควรมีเหตุผลในการลาออกเสมอ
3. เพื่อนคนละแนว
ไม่มีกฎข้อบังคับเรื่องมิตรภาพ การเป็นเพื่อนกันมานาน 10 ปีไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นหนี้เพื่อน 10 ปีสักหน่อย หากทุกครั้งที่เพื่อนคนนี้ชวนคุณไปเที่ยว แต่คุณมักหาข้อแก้ตัวเสมอ ก็เลิกคบไปเถอะ การที่ต้องคอยปฏิเสธคนๆหนึ่งนั้นเจ็บปวดยิ่งกว่าการที่เราจริงใจกับเขา ถ้าไม่ใช่แนวคือไม่ใช่แนว ถ้าคุณชอบดูแลสุขภาพ แต่เพื่อนชอบสวาปามและดื่มทุกเย็น มันก็ไปต่อกันไม่ได้ ถ้าคุณชอบท่องเที่ยว แต่เพื่อนชอบดูแต่ทีวีก็ยิ่งห่างกัน หรือคุณสนใจโลกรอบตัวแต่เพื่อนสนใจแต่ตัวของเธอ ก็ไม่ใช่แนวคะ คบไปเพราะมารยาท เขาเรียกว่าคนรู้จักไม่ใช่เพื่อนคะ
4. เพื่อนที่คุณต้องคอยเอาใจ
บางครั้งคนเราก็ต้องเรียนรู้ที่จะดูแลตัวเองก่อนที่จะสร้างความสัมพันธ์อื่นๆไม่ว่าจะเป็นความรักหรืออะไรก็ตาม หากคุณรักเพื่อนมากกว่าตัวเอง ก็ได้เวลาที่จะต้องทบทวนความคิดใหม่ซะแล้ว ใช่บางครั้งเพื่อนคุณก็อาจมีปัญหาและต้องการความช่วยเหลือ อย่าทอดทิ้งเขา แต่ถ้าเพื่อนคนนี้ต้องการความช่วยเหลือทุกวัน มันก็ไม่ใช่แล้วนะ
5. เพื่อนร่วมห้องเห่ยๆกับเพื่อนร่วมงานแย่ๆ ถ้าไม่ไหวจะเคลีย ก็เลิกอยู่แบบเพลียๆได้แล้ว
หากคุณไม่ชอบคนที่คุณต้องอยู่หรือทำงานด้วยกัน ชีวิตของคุณก็อาจน่าเบื่อ หรือทุกข์ไปเลยก็ได้ จะเสียเวลากับคนที่ไม่เคารพ คนขี้อิจฉาทำไม ไล่พวกเขาไปเลย อย่าไปแคร์ บอกว่าแม่จะมาอยู่ด้วย หรือบอกนายว่าคุณรำคาญหล่อนตรงไหน และคุณคงจะไม่ทนทำงานด้วย ถ้านายดีๆเขาจะย้ายคุณหรือเขาไปอยู่ส่วนอื่น เพื่อการพัฒนาของบริษัท
6. เมืองที่พรากความเป็นตัวตนของคุณไป
หากเมืองนี้ไม่ทำให้คุณมีความสุขหรือต้องสูญเสียความเป็นตัวตนของคุณไป ก็ยังมีอีกตั้งหลายล้านเมืองในโลกที่รอคุณไปใช้ชีวิตนะ เมืองที่ทำให้คุณเหงาหงอย โดดเดี่ยว แต่ก่อนจะจากไปลองเปลี่ยนตัวเองสักนิดก่อน หัดยิ้มให้เป็น หัดคุญกับคนแปลกหน้าให้ได้ หัดสนใจคนรอบข้าง และหัดทำสิ่งที่คุณเคยไฝ่ฝันไว้ เช่นเรียนภาษาใหม่ เรียนเต้นรำ ไปออกกำลังกายในสวน เพราะบางที่คุณนั่นแหล่ะที่พรากความเป็นคุณ
7. อนาคตที่คุณไม่ต้องการ
คุณเคยมีความฝันอะไรเมื่อสามปีก่อน หรือสิบปีก่อน ทุกวันนี้คุณยังฝันแบบนั้นไหม แล้วคุณใกล้ฝันแค่ไหน คุณมีสิทธิ์หนีจากความฝันที่ไม่ใช่ของคุณ งานบางงาน เรื่องบางเรื่องคุณทำไปเพราะอยากเอาใจคนรอบข้าง แต่ถ้ามันทำให้คุณไปถึงฝันของคุณไม่ได้ ต้องเดินจากมาคะ การปฏิเสธความฝันที่คนอื่นสร้างให้คุณไม่ใช่เรื่องน่าอาย เรียกได้ว่าคุณเข้มแข็งและซื่อสัตย์ต่อตัวเองต่างหาก การใช้ชีวิตเพื่อตัวเองคือชีวิตที่มีเกียรติที่สุด อย่ากลัวที่จะวิ่งหนีหากเป้าหมายต่อไปคือสิ่งที่ดีกว่า และมันเป็นความสุขของคุณมากกว่า
8. ความคิดเห็นที่ฉุดคุณต่ำลง
ความคิดแย่ๆ ความคิดลบๆ ความคิดที่ไม่เคยผลักดันคุณไปในทางที่ดี มันทำให้คุณเสียเวลาชีวิตคะ ที่สำคัญคนส่วนใหญ่มักสนใจความคิดของคนอื่น ที่ไร้เหตุผลและไม่สำคัญต่อชีวิตของคุณเลย อย่าปล่อยให้ความคิดลบๆของตนและความคิดลอยๆของคนอื่นมามีอิทธิพลต่อชีวิตของคุณ
9. ตัวตนเก่าๆของคุณ
บอกตัวเองว่าคุณจะเป็นเวอร์ชั่นที่ดีกว่าวันวาน อัพเกรดและเดทตัวเองให้บ่อยพัฒนาความคิดและมุมมอง เชื่อไหมคะ พอดิฉันอ่านหนังสือ งานวิจัย จากนักเขียนดีๆ ความคิดของดิฉันเติบโตขึ้น ดิฉันไม่กลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้นถัดไป เพราะดิฉันรู้ว่าดิฉันจะมีสติและปัญญาแก้ปัญหาได้ ที่สำคัญมั่นใจขึ้นเยอะเพราะหลายครั้งคนที่เราเคยมองว่าเขาเก่ง แต่เขาก็มีเรื่องที่รู้น้อยกว่าเราหลายเรื่อง ดังนั้นรีบที่จะสลัดตัวตนเก่าๆของตัวเองทิ้งไป แล้วปรับตัวใหม่คะ
10. คนที่คุณไม่กล้าปฏิเสธ
คุณต้องกล้าปฏิเสธสักครั้ง หรือถ้ามีพลังมากพอก็กำจัดคนเหล่านี้ออกจากชีวิตของคุณไปเลยได้ยิ่งดี เพราะคุณกำลังทำงานให้กับคนที่ไม่มีวันจะตอบแทนอะไรดีๆคืนกลับมาให้คุณเลย
11. ความล้มเหลวทั้งปวง และอดีตที่ทุกข์ทน
คุณควรหนีให้พ้นจากความล้มเหลว หากทำไม่ได้แล้วคุณจะพบกับความสำเร็จได้อย่างไร เก็บความล้มเหลวไว้ในอดีตก็พอ คุณควรเรียนรู้จากความล้มเหลวและเติบโตจากสิ่งนั้น แล้วค่อยเขวี้ยงมันทิ้งไปให้ไกลๆ
12. การเปรียบเทียบ
ทำไมคุณต้องละทิ้งตัวเองและวิ่งเข้าหาคนอื่นล่ะ จงค้นหาตัวเองให้เจอ อย่ามัวแต่ตามหาสิ่งที่คุณไม่มี แต่โฟกัสในสิ่งดีๆที่คุณมีแล้วพัฒนามันให้แข็งแกร่งขึ้น พร้อมกับหาศักยภาพใหม่ๆให้ได้ ที่สำคัญหัดจัดสมดุลย์ของตัวเองให้เป็น พอคุณสุขง่ายๆได้บ่อยๆ คุณจะรู้เลยว่าชีวิตไม่ได้เกี่ยวกับใครอื่น เหมือนกับการทำโยคะ คุณแค่ยืดตัวให้ได้มากกว่าเมื่อวาน ไม่ได้สนใจว่าคุณทำดีกว่าหรือด้อยกว่าคนข้างๆ ยิ่งคุณหนีจากการเปรียบเทียบเหล่านั้นได้เร็วเท่าไร ผู้คนก็จะยิ่งเริ่มหันมาเปรียบเทียบตัวเองกับคุณได้เร็วเท่านั้น ที่สำคัญคุณไม่ได้ใส่ใจว่าใครกำลังจะเปรียบเทียบกับคุณด้วยซ้ำ เพราะนั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญในชีวิต
ถ้าคุณชอบโพสท์นี้ แล้วอยากปรับความคิด เปลี่ยนคุณให้เป็นเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเมื่อวาน และคุณว่างวันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม เวลา 9:00-16:00 รับส่วนลดและกรอกใบสมัครได้ที่นี่หรือ up.company.th@gmail.com
Source : elitedaily.com/life/motivation/quit-win-12-things-perfectly-okay-run-away/909419/
Share this Post