ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีก้อนเมฆปุยหนึ่งที่เล็กมากและเหงามาก เธอมักเร่ร่อนห่างไกลจากหมู่เมฆก้อนใหญ่ ๆ
เธอเป็นเมฆก้อนเล็กนิดเดียว แค่ปุยกระจิดริดเท่านั้นเอง เมื่อไรที่หมู่เมฆใหญ่โปรยปรายสายฝนเพื่อให้เทือกเขาเป็นสีเขียว
ก้อนเมฆปุยเล็กจะโฉบเข้ามาหาเพื่อเสนอตัวขอมีส่วนช่วยบ้าง แต่หมู่เมฆใหญ่ดูแคลนเธอ เพราะเธอเล็กเหลือเกิน
“เจ้าช่วยอะไรไม่ได้หรอก” หมู่เมฆใหญ่บอกเธอแบบนั้น “เจ้าเล็กเกินไป”
หมู่เมฆใหญ่หัวเราะเยาะเย้ยจนเธออับอายมาก เมฆปุยเล็กเศร้าใจยิ่งนัก เธอจึงพยายามไปที่อื่นเพื่อโปรยสายฝนบ้าง
แต่ไม่ว่าไปที่ไหน หมู่เมฆใหญ่จะขับไล่ไสส่งเธอเสมอ ดังนั้น เมฆปุยเล็กจึงรอนแรมไปไกลขึ้นๆ จนถึงที่แห่งหนึ่งที่แห้งแล้งมาก
แห้งผากจนไม่มีกิ่งไม้สักก้านงอกเงยและเมฆปุยเล็กพูดกับตัวเองว่า “นี่คือจุดเหมาะที่สุดที่ฉันจะโปรยสายฝน
เพราะไม่มีใครเคยมาที่นี่เลย” แล้วเมฆปุยเล็กพยายามสุดชีวิตเพื่อกลั่นสายฝนออกมา
และในที่สุด เธอก็กลั่นหยดน้ำเล็กๆได้หยดหนึ่ง หยดฝนน้อยๆแล้ว ค่อยๆ ร่วงหล่นลงไปช้าๆ เธอร่วงหล่นและร่วงหล่นไปในความเหงาวังเวง แต่ไม่มีอะไรรอคอยเธออยู่ข้างล่างเลย เนื่องจากทะเลทรายนั้นเงียบงันมาก หยดฝนน้อยจึงส่งเสียงดังมากตอนแตกกระจาย เพราะเธอตกลงไปบนก้อนหินก้อนหนึ่งพอดี เสียงสนั่นปลุกโลกแห้งแล้งตรงนั้นตื่นขึ้นมา
“นั่นเสียงอะไร?” ใบไม้แห้งถาม “เสียงฝนหยดหนึ่งตกลงมา” ก้อนหินตอบ “ฝนหยดหนึ่งหรือ? หมายความว่าฝนกำลังจะตกสิ! เร็วเข้า! ตื่นเร็ว! ฝนจะตกแล้ว!” แม่ธรณีปลุกพืชพรรณต่างๆ ที่ซ่อนหลบแสงอาทิตย์อยู่ใต้ดิน พืชพรรณต่างๆ จึงแทงยอดเล็กๆ
เพียงพริบตาเดียว ทั่วทะเลทรายก็ปกคลุมด้วยสีเขียวชอุ่ม ทราบข่าวไปถึงหมู่เมฆใหญ่ต่างแลเห็นสีเขียวสดอยู่ไกลลิบๆ
“ดูนั่นสิ มีสีเขียวกว้างใหญ่อยู่ตรงโน้น เราไปโปรยสายฝนตรงนั้นดีกว่า เราไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า ตรงนั้นเขียวชอุ่มเหลือเกิน”
หมู่เมฆใหญ่จึงเดินทางไปโปรยสายฝนตรงที่ที่เคยเป็นทะเลทราย พวกเขาสาดสายฝนจนชุ่มฉ่ำและต้นไม้ต่างพากันเติบโต
สรรพสิ่งดูเหมือนกลายเป็นสีเขียวในทันที “โชคดีนะที่พวกเรามาแถวนี้” หมู่เมฆใหญ่พูด “ถ้าไม่มีพวกเรา ก็ไม่มีสีเขียวหรอก”
และไม่มีใครจดจำเมฆปุยเล็กที่กลั่นหยาดฝนหยดหนึ่งที่เคยปลุกทุกคนที่หลับใหลขึ้นมา ไม่มีใครจดจำ นอกจากก้อนหินที่เก็บความลับของฝนหยดน้อยไว้
กาลเวลาผ่านไป หมู่เมฆใหญ่ในตอนโน้นสลายหายไปแล้วและพืชพรรณตอนโน้นก็ตายไปแล้วเช่นกัน ส่วนก้อนหินผู้ไม่เคยตาย มันคอยบอกเล่าแก่พืชพรรณไม้ต้นใหม่ที่แทงยอดและหมู่เมฆใหม่ที่ลอยผ่าน ถึงนิทานของเมฆปุยเล็กปุยหนึ่งที่กลั่นหยาดฝนหยดน้อยลงมา
เครดิต : นิทานของเอลซุป เรื่อง ปุยเมฆเล็กและหินเล่าตำนาน
เขียนโดยผู้พันมาคอส แปลโดยภัควดี วีระภาสพงษ์
<<Back
Next>>
Share this Post