12 สิ่งที่คุณควรเรียนรู้ และจำไว้

12 สิ่งที่คุณควรเรียนรู้ และจำไว้

เชื่อว่าในชีวิตของทุกคนมีเรื่องราวต่างๆ มากมาย แต่มีเรื่องที่คุณต้องเรียนรู้ และจำไว้ หากคุณอยากที่จะมีความสุข เข้าใจ และปล่อยวางชีวิตมากขึ้น ดิฉันเขียนมา 12 ข้อ นี้ลองดูกันนะคะ ค่อยๆ มองดูตัวเอง เลิกโฟกัสที่คนอื่นค่ะ

1. อดีตไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
หมายความว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่คุณต้องคิดถึงความผิดพลาดในอดีต หรือมัวแต่คิดถึงเรื่องราวดีๆ ในอดีตมากเกินไปจนทำให้คุณรู้สึกว่าคุณทุกข์เหลือเกินในปัจจุบัน ทำไมไม่มีความสุขเหมือนในอดีต เพราะสิ่งเหล่านี้ในอดีตมันมาจำกัดความสุขคุณในปัจจุบัน คุณต้องยอมรับและเข้าใจว่าคุณเองไม่สามารถเปลี่ยนอดีตได้ และอดีตไม่สามารถจำกัดสิ่งที่คุณสามารถทำได้ในปัจจุบัน วันนี้อยากมีความสุข.. จงมีค่ะ จงเป็น จงสร้างมันขึ้นมาใหม่ คุณสามารถเป็นคนที่ดีกว่าเมื่อวานได้ คุณสามารถมีความสุขกว่าอดีตได้เช่นกันค่ะ

2. “ความคิดเห็น” ของคนอื่นไม่สามารถตัดสินชีวิตของคุณได้
ความคิดเห็น คำวิจารณ์ มันก็เหมือนกับ การดูดวงนั่นแหละค่ะคุณ ดวงดี.. คุณก็ต้องทำให้ดีต่อไป ดวงไม่ดี.. คุณแค่ต้องทำให้มันดี และจำไว้ว่าไม่ว่าคุณจะได้รับความคิดเห็นที่ดีหรือไม่ก็ตาม นั่นเป็นเพียง “ความคิดเห็น” เท่านั้น มันไม่สามารถจำกัดขีดความสามารถคุณได้ สิ่งเดียวที่คุณจะได้จาก “ความคิดเห็น” นั่นคือ “การพัฒนา” ไม่ว่าจะเรื่องดี หรือไม่ พัฒนาตัวเองต่อไปค่ะ เพราะสิ่งที่คุณจะได้ คนอื่นที่แสดงความคิดเห็นต่อคุณ เขาไม่ได้นะคะ จงเป็นคุณ ในแบบคุณ ในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด

3. เรื่องราวชีวิตของคนเรานั้นมันต่างกัน
อย่าตัดสินคนอื่นโดยใช้พื้นฐานจากชีวิตตัวเอง เพราะคุณไม่สามารถรู้ได้ว่าชีวิตเขานั้นผ่านอะไรมาบ้าง อย่าเอาแต่บ่น หรืออิจฉา ต่อว่าว่าชีวิตตนเองนั้นไม่เป็นแบบใคร หรือโทษ พาลคนอื่นว่ามีมากกว่าตนเลยทำอะไรได้มากกว่า อย่าลืมนะคะ เรามาเห็นเฉพาะตอนเขาสำเร็จและมีทุกอย่าง แต่เราไม่เคยเห็นตอนเขาลำบาก หรือไม่มีอะไรเลย ฉะนั้นชีวิตคนอื่นจะเป็นยังไงมันเรื่องของเขา สนแต่ชีวิตคุณก็พอค่ะ เพราะมันเป็นเรื่องของคุณ

4. ทุกอย่างสามารถเยียวยาได้ด้วยเวลา
ทุกสิ่งในชีวิตของเรามันดีขึ้นได้เพราะเวลา เวลาจะทำให้เราได้เรียนนรู้ และทำให้เราเข้าใจอะไรมากขึ้น หากวันนี้คุณทุกข์ คุณอกหัก คุณไม่มีความสุข คุณแค่ต้องปล่อยวาง และอย่าฝืนตัวเองเพื่อทำความเข้าใจสิ่งนั้น บางทีคุณอาจต้องการเวลามากกว่านี้ในการเรียนรู้ ปล่อยมันไปธรรมชาติค่ะ สิ่งแรกที่ต้องทำคือ “ยอมรับ” เพียงเท่านั้น หลังจากนี้เป็นเรื่องของเวลา ลองให้เวลาตัวเองดูนะคะ

5. การคิดมากเกินไปจะนำคุณไปสู่ความเศร้าหมอง
การใช้ความคิดก่อนนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่อะไรที่ “มากเกินไป” มันสามารถทำร้ายคุณได้ในภายหลัง และอาจทำให้คุณเกิดความเศร้าหมอง ยกตัวอย่างเช่น เรามัวแต่คิดมากเกินไปจนไม่ได้ทำอะไรเลย หลังจากนั้นก็มานั่นเสียใจว่าทำไมตัวเองไม่ลงมือทำอะไรในตอนนั้นจนทำให้พลาดโอกาสดีๆ ไปหลายอย่างในชีวิต เคล็ดลับของการคิดน้อยแต่ได้ผลคือ คิดแค่ว่า มันดีไหม? จำเป็นไหม? ส่งผลตามมาอย่างไรบ้าง? เท่านี้ก็คงทำให้คุณตัดสินใจอะไรได้รวดเร็วขึ้น แต่ได้ลงมือทำอะไรสักทีนะคะ

6. ความสุขที่แท้จริง นั้นมาจากภายในใจของเรา
เคยเห็นคนที่มีความสุขจากภายในไหมคะ? มันต่างกันมากสำหรับคนที่พยายามที่มีความสุข แต่ข้างในเต็มไปด้วยความเกลียดชัง หรือเสแสร้ง ดังนั้นการที่คุณพยายามที่จะมีความสุข นั่นมาถูกทางแล้วค่ะ แต่คุณต้องปล่อยวางและยอมรับให้มากกว่านี้ และสุขแบบมีสติ คืออย่าหลอกตัวเองว่ามีความสุข แล้วไม่คิดที่จะสนใจสิ่งรอบตัวหรือแก้ไขปัญหาใดๆ ดังนั้นคุณควรฝึกที่จะมีความสุขมาจากภายในค่ะ

7. การคิดบวก ย่อมนำมาซึ่งสิ่งดีๆ
การคิดบวก อาจจะฟังดูคุ้นหูเพราะคนสมัยนี้เห็นความสำคัญของการคิดบวกมากขึ้น ซึ่งบ้างก็ทำได้ บ้างก็ทำไม่ได้ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคืออยากจะบอกคุณว่า การที่เราคิดอย่างไร นั่นคือจุดเริ่มต้นของสิ่งที่จะตามมา หรือสิ่งที่เราจะได้ การคิดดี คิดให้ถูกต้องจึงเป็นเรื่องจำเป็นมากในชีวิต ดังคำที่บอกว่า “คิดอย่างไร ได้อย่างนั้น” นั่นแหละค่ะ

8. “รอยยิ้ม” เป็นโรคติดต่อ
ยิ้ม” เป็นโรคติดต่อทางสายตา และโรคนี้ไม่จำเป็นต้องรักษาค่ะ ถ้าเราบังเอิญสบตากับคนที่มี “รอยยิ้ม” เราก็จะเผลอ “ยิ้ม” ออกมาโดยไม่รู้ตัว ถ้าคุณไม่เชื่อ “ลองมอบรอยยิ้ม” ให้คนรอบข้างดูค่ะ

9. ความเมตตาเป็นของฟรี
ความเมตตาเป็นของฟรีที่เรานั้นสามารถมอบให้แก่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน โดยไม่ต้องคิดถึงเรื่องการลงทุน หรือผลตอบแทนที่จะตามมา แถมการเมตตาเล็กๆ น้อยๆ ยังส่งผลกำไรต่อจิตใจอีกด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ต้องใช้มันอย่างระมัดระวังด้วยนะคะ

10. คุณจะล้มเหลวก็ต่อเมื่อคุณล้มเลิก
เพราะฉะนั้นหากคุณยังไม่คิดที่จะล้มเลิกความตั้งใจ แสดงว่าคุณยังไม่ล้มเหลวในสิ่งนั้น go for it! ต่อไปค่ะ ไม่มีใครมาชี้นิ้วสั่งให้คุณหยุดทำอะไรได้ หรือพูดว่า “คุณทำมันไม่ได้ ล้มเลิกซะ” ดังนั้น ฟังตัวเองค่ะ เหนื่อยก็พัก และอยากทำอะไรให้สำเร็จอย่าล้มเลิกความตั้งใจค่ะ

11. ยิ่งให้เท่าไหร่ ยิ่งได้มากเท่านั้น
เป็นเรื่องที่เป็นพื้นฐานมาก ยิ่งให้รอยยิ้มก็จะได้รอยยิ้ม ยิ่งทำดีก็จะมีสิ่งดีๆ ตอบแทน ฯ แต่ถ้าคุณไม่คิดแบบนั้นแล้วละก็ ดิฉันคิดว่าคุณคงให้ผิดคน แต่เอาเข้าจริงต่อให้เราให้ผิดคน ผิดวิธี เอาเข้าจริงมันไม่ได้เป็นเรื่องที่ซับซ้อนอะไรนะคะ เหมือนกับความเมตตาในข้างต้น แต่จะเสี่ยงกว่าความเมตตาหน่อยตรงที่ถ้าเราให้แบบขาดสติ เราก็จะยิ่งเสียเท่านั้น ให้แบบที่ยังเหลืออะไรไว้เพื่อตนเองบ้างค่ะ

12. เราไม่ได้เห็นโลกแบบที่มันเป็น เราเห็นโลกแบบที่เราเป็น
การมองโลก การตัดสินใจ หรืออะไรก็แล้วแต่เราไม่สามารถบังคับให้ใครมามองแบบเราได้ นักรัก เขาก็มองโลกแบบนักรัก นักรบ เขาก็มองโลกแบบนักรบ ดังนั้นอย่าพยายามทำอะไรที่ต้องคิดว่าทุกอย่างต้องเป็นแบบที่เราคิด เราเห็น เราเป็นแบบไหน เราก็เห็นโลกเป็นแบบนั้น ออกจะเหมือน “การคิด” ที่ว่า คิดแบบไหนก็ได้แบบนั้น ถ้าเราเป็นคนที่ดี มีความสุข คิดบวก ยอมรับความจริง เราก็มองเห็นโลกแบบนั้น คุณก็จะรู้สึกมีความสุขจริงๆ ต่อให้เจอคนที่ไม่ได้เห็นโลกแบบคุณ เพราะคุณเข้าใจ ว่าโลกของเรามันต่างกัน เพราะสิ่งที่เราเป็น และเขาเป็นมันต่างกัน

ถ้าคุณสนใจบทความนี้ ดิฉันขอแนะนำหนังสือขายดีอย่าง “จงเห็นแก่ตัว” ที่จะทำให้คุณเป็นคุณในเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเดิมค่ะ

Share this Post

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.