9 สัญญาณเตือนที่บอกว่าคุณควรเปลี่ยนความคิดตัวเองได้แล้ว

9 สัญญาณเตือนที่บอกว่าคุณควรเปลี่ยนความคิดตัวเองได้แล้ว

เชื่อเถอะค่ะว่าความคิดในเชิงลบนั้นเป็นสิ่งกีดขวางเดียวที่ขัดขวางคุณจากความสุขและความสำเร็จในชีวิต มุมมองการใช้ชีวิตของคุณนั้นมันเริ่มมาจากข้างในค่ะ ดิฉันกำลังหมายถึงความคิดของเราเอง เพราะในท้ายที่สุดแล้วความคิดเราเองนั่นแหละค่ะ ที่จะเป็นสิ่งที่ช่วยเรา หรือไม่ก็ทำร้ายเราเสียเอง มีอยู่สองทางนี้เท่านั้น การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างรอบๆ ตัวเรานั้นเริ่มจากความคิดของเราเองค่ะ เมื่อคุณเปลี่ยนความคิด สิ่งรอบตัวคุณก็จะเปลี่ยนตามไปด้วย เพราะฉะนั้นเราจึงต้องระวังความคิดตัวเองให้มากๆ นะคะ และนี่คือสัญญาณเตือนที่ชัดเจนที่สุดในการทำให้คุณได้ฉุดคิดว่า มันถึงเวลาแล้วนะที่ต้องเปลี่ยนความคิด ทัศนคติของคุณเสียใหม่ มาดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง ..

1.คุณมองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากแง่ลบของทุกๆ อย่าง
ถ้าคุณอยากมีความสุขกับปัจจุบันมากขึ้น คุณต้องเรียนรู้ที่จะมองในแง่บวกมากขึ้น อย่าไปให้ความสนใจกับความคิดแง่ลบมากนัก ไม่ว่ากับตัวคุณเองหรือกับใครก็ตาม หรือเพียงแค่พยายามมองทุกอย่างในสองด้าน ค่อยๆ ฝึกกันไปค่ะ ทุกอย่างล้วนแต่มีดีและไม่ดี เพราะฉะนั้นถ้าแก้นิสัยที่มองทุกอย่างในแง่ลบไม่ได้ ก็ควรเริ่มฝึกมองทุกอย่างทั้งสองแง่ค่ะ

2. คุณเอาแต่วิ่งหนีความจริง
สังเกตตัวเองเสมอว่าตัวคุณเองเอาแต่บ่น โดยไม่รู้ตัวหรือรู้ตัวก็ดี เช่น อะไรทีคนอื่นพูด หรือทำ หรือแม้แต่อดีตของคุณซึ่งมันผ่านไปแล้ว (นานแล้วด้วยบางที) สภาพแวดล้อมรอบๆ ตัว รวมไปถึงสภาพอากาศก็มี คุณจะบ่นแบบนั้น บ่นอยู่เสมอไม่เคยยอมรับความจริง และมีทีท่าว่ามันเพิ่มทวีมากขึ้นทุกๆ วัน มันถึงเวลาแล้วที่คุณจะหยุดบ่นต่อทุกสิ่งและรีบเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อทุกอย่างที่บ่นโดยเร็วที่สุดค่ะ

3. คุณมีแนวโน้มในการตำหนิคนอื่น (สูงมากค่ะ)
เอาตามตรงนะคะ ถ้าหากคุณอยากที่จะมีความสุข ความสงบ คุณควรใช้อารมณ์ของคุณทั้งหมดไปกับความสุขมากกว่า ถ้าคุณเองยังยึดติดอยู่กับอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับ ความโกรธแค้น หรือหึงหวง ฯ อะไรก็ตามที่เป็นอารมณ์ทางด้านลบแล้วล่ะก็ คุณคงไม่มีวันสงบสุขเป็นแน่ เพราะฉะนั้นวางมีดของคุณลงซะ และหยุดโจมตีคนอื่นเสียที เขาว่ากันว่าคนที่แข็งแกร่งที่สุดไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นนักสู้ที่เก่งที่สุด แต่เป็นคนที่ควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ และเรียนรู้จากมันต่างหากล่ะ

4. คุณกังวลกับเรื่องทุกอย่าง
เขาว่ากันว่าความกังวลนี่แหละคือเครื่องขโมยความสุข คุณจะไม่มีเวลาว่างไปทำอะไรอย่างอื่นเลยนอกจาก “กังวล” มันเหมือนการใช้จินตนาการของคุณเพื่อสร้างในสิ่งที่คุณไม่ต้องการ เพราะฉะนั้นการใช้ความกังวลให้เป็นประโยชน์ค่ะ อย่าวิตกกับมันมากจนเกินไป แต่ใช้มันเพื่อเป็นเครื่องหมายของความตื่นเต้นและเปรียบเสมือนความหวังที่จะมีความสุข ตื่นเต้นกับมันและอย่าลืมเรียนรู้จากมันค่ะ

5. คุณคาดหวังมากเกินไป
ดิฉันหมายถึงการคาดหวังมากเกินไป แบบที่มากไปจริงๆ กับทุกสิ่งอย่าง ลดความคาดหวังของคุณลงมาหน่อยไหมคะ? แล้วมีความสุขกับ ณ ขณะนี้ดู การคาดหวังเป็นสิ่งที่ดีที่จะทำให้เราแอคทีฟตัวเองเพื่อให้สมกับที่คาดหวังไว้ แต่บางครั้งคุณเองจะรู้ค่ะ ว่าอะไรคือ ‘มากไป’ สำหรับคุณ

6. คุณแอบหวังลึกๆ ว่าต้องการมีชีวิตที่ปราศจากความเจ็บปวด
ความเจ็บปวดเป็นส่วนหนึ่งที่น่ารำคาญสำหรับการเป็นมนุษย์นะคะ แต่มันดันเป็นสิ่งสำคัญ เพราะมันเป็นตัวเพิ่มความแข็งแกร่งของจิตใจและร่างกายมนุษ์ค่ะ คุณไม่สามารถเติบโต หรือแข็งแกร็ง กล้าหาญขึ้นเลยหากไม่เคยรับรู้ถึงความเจ็บปวดมาก่อน บางความเจ็บปวดมันก็นำมาซึ่งการเรียนรู้โดยไม่คาดคิดและแปรสภาพเป็นบทเรียนที่ทรงคุณค่าให้กับชีวิตเรา อย่าท้อเมื่อพบกับความเจ็บปวด เพราะมันเป็นเครื่องแสดงความเข้มแข็งของคุณค่ะ

7. คุณไม่เคยพอใจกับสิ่งที่ตัวเองมี
และสิ่งนี้จะนำมาซึ่งความเครียดไม่มีวันจบ อย่าเครียดค่ะ หากคุณคิดว่าสิ่งที่มีตอนนี้มันไม่เหมาะสมกับคุณจริงๆ พยายามค่ะ ใช้มันเป็นแรงผลักดันที่จะทำให้คุณเป็นคนที่ดีกว่าเดิม แต่อย่าใช้มันเพื่อกดดันตัวคุณเอง มันจะเป็นผลเสียกับจิตใจและร่างกายคุณ และคุณจะไม่มีวันเข้าใกล้ความสุขได้เลย

8. คุณรู้สึกอิ่มตัวกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
อุปสรรคของการเรียนรู้สิ่งใหม่ คือการที่คุณไม่เคยนำตัวเองไปพบกับความผิดพลาดเลย จำไว้นะคะ โลกนี้มีอะไรใหม่ๆ ให้คุณเรียนรู้อีกมากมาย ไม่ใช่ว่าดิฉันแนะนำให้คุณลองทำเรื่องผิดพลาดหรอกนะคะ เพียงแต่ให้คุณกล้าลงมือทำในทุกอย่างโดยไม่กลัวความผิดพลาดค่ะ เพราะทุกความผิดพลาดนั้นมีข้อดีเสมอ นั่นคือการทำให้เราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ และวิธีใหม่ๆ ค่ะ

9. คุณเอาแต่ใช้ชีวิตอยู่กับอดีต
ไม่ว่าอดีตคุณเป็นอย่างไร หรือเคยเป็นอะไร มันเป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้ว การคิดถึงอดีตบ้างบางทีเป็นเรื่องดีและจำเป็นต่อจิตใจ แต่อย่าลืมว่าวันนี้ของคุณ จะกลายเป็นอดีตของคุณเช่นกันในวันพรุ่งนี้ เพราะฉะนั้นอยากมีอดีตที่ดี คุณควรเริ่มทำวันนี้ และใส่ใจวันนี้ของคุณให้มากที่สุด เพื่อวันพรุ่งนี้ย้อนกลับคิดถึงอดีตคุณจะได้ไม่เสียใจ ที่วันนั้นไม่ได้ทำอะไรเลย และปล่อยวันเวลาให้กลายเป็นอดีตไปสูญเปล่า

และหากคุณสนใจที่อยากจะเป็นคนใหม่ในเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเดิม ดิฉันขอแนะนำ “จงเห็นแก่ตัว” หนังสือที่จะทำให้คุณเห็นคุณค่าของตัวเองมากขึ้น และเปลี่ยนแปลงเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิมได้ค่ะ

แปลและเรียบเรียงโดย แอดมิน
ข้อมูลที่มาจาก www.marcandangel.com

Share this Post

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.