เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณใจเย็นและปลอดโปร่งจากในโลกของคุณ คุณจะยิ่งนิ่งสงบและเยือกเย็นเมื่อออกไปสู่โลกภายนอก ฉันหยิบคำคมนี้ขึ้นมากล่าวเพราะไปตลาดสำเพ็งมาเมื่อวันก่อน ในอากาศที่แสนจะอบอ้าว เสียงจอแจ ความสกปรก และผู้คนขวักไขว่ที่ต้องรีบเร่งมันทำให้ฉันแทบจะหมดแรง ระหว่างนั่งรอเรือด่วนกลับบ้าน แล้วเห็นกระเป๋ารถเมล์เดินมาด่าผู้รวมงานด้วยคำที่หยาบคายมากๆ จนคนที่โดนด่านั่งเงียบและข้อหน้าตาของหล่อนไร้สุข เรื่องที่หล่อนต่อว่าเป็นเรื่องเล็กมาก แต่ด่าได้ยาวมากและหยาบอย่างที่สุด ดิฉันแอบนึกถึงคำคมนี้ เพราะแอบย้อนคิดถึงที่บ้านของหล่อน ชีวิตส่วนตัวของหล่อนคงจะแย่ ตัวเองก็หมดสภาพและไร้สุขที่สุด หล่อนจึงแค่แค่อยากระบายความทุกข์และแค้นที่อัดอั้นให้มันออกไป ทั้งที่ทุกคนเดินหนีไม่มีใครฟังแม้แต่คนที่รอเรืออย่างดิฉันและอีกหลายค ก็หลีกไปอยู่ที่อื่น เลยอยากระซิบคุณทุกคนว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ชีวิตมันถีบคุณลงมากองกับพื้นรีบตั้งสติให้เร็วที่สุด แล้วลุกขึ้นมาจัดการชีวิตให้รวดเร็วอย่างมีขันติ(ความอดทน)และปัญญาแล้วคุณจะผ่านทุกอย่างได้ดี อย่าปล่อยอย่ารอจนเรื่องใหม่ๆมันมาถาถมคุณจะหนักอึ้งลุกแทบไม่ไหว จงจำไว้ เช็คใจตัวเองทุกวันให้เรามีสุข สงบ ปลอดโปร่ง ถ้ารู้สึกว่ามันไม่ใช่เมื่อไหร่รีบแก้ปัญหาคะ และจงระวังไว้ว่าก่อนที่เราจะแสดงกริยาอะไรออกไป มันบอกหมดเลยคะ ว่าภายในของเรามันแย่หรือดีแค่ไหน จงสังเกตชีวิตให้ดีปัดฝุ่นและเก็บขยะในใจทิ้งทุกวัน และเคลียออกไปให้หมด
– When you become more calm and serene on the inside, the world becomes more calm and serene on the outside.
Share this Post