วงสังคมของฉันแสนเล็ก ดิฉันเชื่อว่าเราทุกคนคงจะเคยมีเรื่องหนักใจให้คิดเกี่ยวกับคนรอบข้างอยู่บ่อยๆ เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม ก่อนหน้านี้ดิฉันมักเครียดกับเรื่องนี้ แต่เดี๋ยวนี้ดิฉันมีวิธีจัดการกับปัญหาเหล่านั้นแบบง่ายๆ เช่น ถ้าใครสักคนทำความรำคาญใจให้ดิฉันอยู่บ่อยๆ หรืออยู่ใกล้เขาดิฉันจะรู้สึกอึดอัดหงุดหงิด ดิฉันก็จะถามตัวเองว่าคนๆนั้นเขาอยู่ในแฟ้มอะไร แฟ้ม “เพื่อน” เป็นแค่ “คนรู้จัก” ทำไมหน่ะเหรอ อ่านต่อนะคะ
บางคนเล่าว่ามักจะโดนเพื่อนพูดจาถากถาง ดิฉันมักจะตอบว่าถ้าเขาเป็นเพื่อนเขาจะไม่ทำร้ายจิตใจคุณ แปลว่าคนที่คุณกำลังเครียดหรือทุกข์นั้น เขาไม่ใช่เพื่อนและนั่นแปลว่าเราไม่ควรใส่ใจ ไม่ว่าเขาจะพยายามทำให้เราจิตตกหรือเจ็บปวดแค่ไหน
ถ้าเขาไม่เคยใส่ใจ หรือสนใจความรู้สึกรือคำพูดของเรา ลองนึกถึงวงกลมสามวงที่เรียงรอบตัวเรา วงเล็กๆ คือวงในสุด คือคนที่เรารักและเขารักเราตอบ จะเป็นครอบครัว แฟน พี่น้อง เพื่อนหรือใครก็ตาม ที่สำคัญที่รู้สึกดี ห่วงใย ใส่ใจ คนอยู่ในวงนี้จะสำคัญมาก เราก็จะดูแลเอาใจใส่ คิดเรื่องของเขา
ส่วนวงถัดไป ใหญ่ขึ้นอีกนิด แต่ความสำคัญน้อยลงไป คือคนรู้จักที่เราต้องเจอกันบ่อยหรือไม่บ่อยก็แล้วแต่ คนในสังคมนั่นไง และวงรอบนอกๆก็ใหญ่มาก แต่แทบไม่มีความสำคัญใดๆ ในความรู้สึก
คนที่อยู่ในวงต่างๆ ก็จะถูกดึงเข้าหรือผลักออกไปตามพฤติกรรมของกันและกัน สมมุติว่าคนที่ทำให้คุณคิดมาก เมื่อก่อนเคยอยู่วงใน เขาเป็นคนที่ใส่ใจควมรู้สึก เป็นเพื่อนที่แสนดี แต่นานๆ ไปเขาไม่เคยโทรหาหรือแม้แต่ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของเรา เราไม่ต้องโกรธเขา เพราะพวกเขาไม่จำเป็นต้องมีหน้าที่ดีกับเรา ทั้งๆที่เราดีกับเขามากมาย ช่างเขา นั่นมันการกระทำของเขา แต่เรื่องของเราก็คือ เราผลักเขาออกไปจากวงในสุดของเรา ถ้ายังไม่ดีอีกและแย่ขึ้นเรื่อยๆ เช่น เราเตือนสติเขา แต่เขากลับมองเราเป็นศัตรู เราก็ผลักเขาไปอยู่วงนอกสุดคือวงที่เราจะไม่ใส่ใจ ไม่รู้สึกอะไรเพราะเขาเป็นคนวงนอก
ลองคิดตามนะคะ แล้วคุณไม่รู้สึกอะไรสักนิดเพราะไม่ได้อยู่ในกลุ่มบุคคลที่คุณควรห่วงใย ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ พอไม่คิด ไม่เครียดเราก็ไม่ทุกข์ ดังนั้นถึงวงสังคมวงในของดิฉันอาจจะเล็กไปสักนิด แต่ดิฉันกลับเป็นสุข ส่วนคนวงนอกไป เพียงแต่คาดหวังน้อยลง ใส่ใจให้น้อยลงและให้เวลาเขาให้น้อยลง
คุณหล่ะคะ ลองจัดอันดับความสัมพันธ์ของคุณใหม่นะคะ แล้วคุณจะรู้ว่าคุณมีเพื่อน เอ๊ยคนที่รู้จักกันเยอะไปหมดคะ ตามการศึกษาที่ผ่านมาโดยชาวดัตช์ สังคมวิทยา Gerald Mollenhorst ทุกรอบเจ็ดปี เราเลิกคบเพื่อนประมาณครึ่งหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าในอีก 7 ปี เพื่อนครึ่งหนึ่งของเราจะหายไปจากชีวิต บางครั้งมิตรภาพขาดสะบั้นเพราะคนหนึ่งย้ายออกไป หรือมีชีวิตของคุณแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด (เช่นคนคนหนึ่งที่มีลูก ในขณะคนอื่นๆ ยังคงเป็นโสด) เราไม่ได้เสียเพื่อนหรอก เราเสียคนที่เคยสวมหน้ากากว่าเป็นเพื่อน ซึ่งมันก็ดีแล้ว
ถ้าคุณชอบแนวคิดแบบนี้ คุณจะชอบ “จงเห็นแก่ตัว” หนังสือเล่มใหม่ของกมลชนก ปานใจ ตามหาได้ที่ร้านหนังสืออย่างซีเอ็ด บีทูเอส คิโนะ นายอินทร์คะ และถ้าต้องการให้ไปสร้างแรงบันดาลใจให้บริษัทของคุณ www.key-up.life
Share this Post