เพราะอะไรคนที่มีจุดมุ่งหมายในชีวิตจึงมีความมั่นใจในตนเองสูง

ลองนึกถึงตอนที่คุณรู้สึกหลงทาง คุณอยู่กลางสี่แยกและไม่รู้ว่าจะเลี้ยวไปทางไหน เมื่อไร้เป้าหมายคุณก็จะรู้สึกไร้ค่าและเฉื่อยชา คุณอาจถามตัวเอง “ฉันมาทำอะไรที่นี่?” และ “ฉันควรไปที่ไหนต่อ?” ด้วยเหตุนี้เองผู้ที่มีจุดมุ่งหมายในชีวิตจึงมีความมั่นใจในตนเองสูง

มนุษย์เราย่อมปรารถนาจุดมุ่งหมาย

บางคนโชคดีที่พบเป้าหมายในชีวิตของตัวเองตั้งแต่เริ่มแรก แต่บางคนก็อาจต้องเดาไปเรื่อยจนกว่าจะพบสิ่งที่ “ใช่” และกว่าจะถึงเวลานั้นเราอาจรู้สึกหลงทางหรือไร้คุณค่าเล็กน้อย

เป้าหมายของคุณไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่คุณรักเสมอไป

บางคนโชคดีที่สามารถเปลี่ยนความฝันให้กลายเป็นอาชีพที่สามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ ทว่าคนส่วนใหญ่กลับไม่เป็นเช่นนั้น อย่างไรก็ตามคุณยังสามารถสร้างอาชีพจากสิ่งที่ตัวเองชอบได้

รู้ได้อย่างไรว่าคุณมีเป้าหมายในชีวิต?
  1. คุณรู้สึกว่างานเหมือนงานอดิเรกมากกว่างานจริงๆ
  2. งานของคุณคือส่วนขยายความเชื่อและค่านิยมของคุณ
  3. คุณเต็มใจทรมานเพื่องานและใช้อุปสรรคต่างๆเป็นแรงจูงใจ
  4. คุณทำงานจนลืมเวลาเป็นประจำ
  5. คุณสามารถรักษาสมดุลระหว่างชีวิตกับการทำงานได้โดยที่ไม่รู้สึกเหนื่อย
  6. แนวคิดในการทำงานไม่เคยน่ากลัวและคุณก็เฝ้ารอมัน
  7. คนสนิทที่สุดของคุณจะสังเกตเห็นความพึงพอใจของคุณ
  8. ไม่ว่าคุณจะเหนื่อยล้าแค่ไหน..คุณก็ยังทำงานต่อไป
ไม่มีเป้าหมายในชีวิตได้ไหม?

ในทางทฤษฎีก็ได้นะ แต่เมื่อใดที่มีการกระทำเกิดขึ้นก็ย่อมมีเจตนาซ่อนอยู่เบื้องหลัง เช่น การหายใจ..เจตนาก็คือเพื่อมีชีวิตอยู่นั่นเอง เป้าหมายของคุณไม่จำเป็นต้องเน้นความร่ำรวยซึ่งในความเป็นจริงตรงข้ามกันเลยแหละ สุดท้ายคนเราไม่ได้ต้องการเงินทองหรือชื่อเสียงหรอก..แต่เป็นความอิสระต่างหาก

ประเด็นคือ..

เราทุกคนล้วนมีจุดมุ่งหมาย ชาวกรีกโบราณเชื่อว่าไม่มีมนุษย์คนใดทำงานสำเร็จได้โดยปราศจากจุดมุ่งหมาย และเมื่อค้นพบจุดมุ่งหมายแล้ว..คุณจะรู้สึกผ่อนคลายได้ก็ต่อเมื่อมีการอุทิศตัวเองให้กับงานอย่างเต็มที่

หาเป้าหมายของตัวเอง

คนส่วนใหญ่อาจยังสงสัยว่าเป้าหมายของตัวเองคืออะไร? แต่ก็ไม่ใช่ความผิดของคุณหรอก เพราะยังมีอิทธิพลภายนอกมากมายที่มาขัดขวางความฝันและความรู้สึกเกี่ยวกับตัวเองของคุณ ไม่ต้องกังวล นี่คือคำแนะนำที่จะทำให้คุณค้นพบเป้าหมายของตัวเอง

หาเวลาว่างและทำตามใจตัวเอง

ลองหยุดสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ เป้าหมายของคุณจะสะเปะสะปะจนกว่าคุณจะมองเห็นภาพรวมที่กว้างขึ้น ก้าวออกมาจากกับดักแห่งความสบายเพื่อสัมผัสตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง เช่น การออกเดินทางคนเดียวอาจฟังดูน่ากลัวแต่ก็เป็นสิ่งดีๆที่คุณทำเพื่อตัวเอง หรือไม่ก็ไปเที่ยวกลางคืน ดูหนัง หรือกินข้าวคนเดียว เนื่องจากการทำอะไรเองจะช่วยเพิ่มพลังอำนาจให้แก่ตัวเอง

ทบทวนความฝันในวัยเด็ก

เมื่อโตขึ้นคุณอยากเป็นอะไร? คุณยังมีความฝันเหล่านี้อยู่ไหม? คุณอยากเป็นสัตวแพทย์แต่การผ่าตัดอาจทำให้คุณกลัวและรู้สึกสะอิดสะเอียน แต่คุณรักสัตว์นะ! งั้นลองไปที่ศูนย์ดูแลสัตว์และหาเวลาว่างไปเป็นอาสาสมัคร คุณอาจเข้าใจความต้องการและเข้าใกล้ความฝันของตัวเองมากขึ้น

สังเกตเวลาที่คุณลองทำสิ่งใหม่ๆ

คุณมีความสุขหรือเหนื่อย? หากคุณรู้สึกอยากถอนตัวตั้งแต่ต้น คุณอาจต้องถามตัวเองว่าเป็นเพราะสิ่งนั้นไม่สำคัญพอที่จะเสียสละเวลาหรือความพยายามหรือไม่? หรือคุณกลัวความล้มเหลว? หรือคุณกลัวความสำเร็จเพราะถ้าผลลัพธ์ออกมาดีคุณจะต้องทุ่มเทอย่างเต็มที่?



Share this Post

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.